บล็อกเกอร์นี้ได้จำทำขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนต์เรื่อง Harry Potter ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่อง Harry Potter

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

การล่าแม่มดในยุคกลาง

ข้อมูลเชิงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และ ข้อเท็จจริง

ในยุคกลางขอยุโรป หรือ ที่เรียกกันว่า ยุคมืด คือ ยุคที่อยู่ใต้การปกครองของศริสตจักร แม่มดถูกประนามว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย เป็นมนุนของซาตาน จึงมีการไล่ล่าเพื่อกวาดล้างแม่มดอย่างเอาเป็นเอาตายจากบรรดาบาทหลวง ไม่ว่าจะเกิดเหตุร้านผิดปกติอะไร เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือ คนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มักจะมีการกล่าวหาว่าเป็นผลงานของแม่มด และ จะมีการรัดมกำลังกันตามหาผู้ต้องสงสัย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นแพะรับบาป การกล่าวหาส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเลื่อนลอย หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาดูแล้วน่าสมเพช ใช้แค่การดูรูปลักษณ์ภายนอก ใครที่ดูแปลกๆกว่าคนอื่น จะโดนกล่าวห้องกล่าวหาได้ง่ายๆ เหยื่อส่วนใหญ่คือผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงแก่ชรา มักถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และ ถูกลากมาเผาประจานทั้งเป็นอย่างน่าเอนจอนาถ ไม่ใช่แต่คนที่มีหน้าตาอัปลักษณ์เท่านั้น ผู้ที่มีหน้าตางดงาม สวยเกินไปก็มักถูกข้อกล่าวหานี้เช่นกัน เพราะสงสัยว่าเอาวิญญานเข้าแลกกับเรือนร่างอันน่างดงาม แถมผู้ชายในสมัยนั้นยังชอบทารุนกรรมผู้หญิง โดยยกข้องอ้างจากไบเบิลขึ้นมาอ้างว่า " สูเจ้าจะต้องไม่ทรมานแม่มดด้วยการปล่อยให้มีชีวิต Thou shlt not suffer a witch to live " การเข่นฆ่าตอนนั้นจึงได้รับรองว่าเป็นสิ่งชอบธรรม

เจเค โรลลิ่ง ได้เขียนถึงการล่าแม่มดไว้ในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในเชิงขบขัน แต่จริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้น การสังหารแม่มดเป็นเหมือนรอยแปดเปื้อนในประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ที่ไม่สามารลบเลือนได้ โดยเฉพาะการทารุนกรรมต่างๆ เกิดจากฝีมือของผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้า ที่ต้องมีความเมตตาการุณย์อยู่ในจิตใน แต่ตรงกันข้าม ศาสนจักรในยุคกลางนั้นป่าเถื่อน และ วิปริตผิดมนุษย์ ไม่ปรากฎหลักฐานจริงๆว่า แม่มด เคยได้ทำร้ายผู้คนจริงๆ นอกจากคำสารภาพของบุคคลที่ถูกทรมารให้รับผิด

เชื่อกันว่าแม่มดเคารพบูชา ซาตาน ในการรับใช้จอมมารนั้น ต้องเกณฑ์ผู้คนเข้าเป็นพวก อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันยิ่งใหญ่ ในการทำลายคริสตศาสนา ลดทอนค่านิยมอันดีงาม และ ล่อวิญญาณมนุษย์สู่ขุมนรก ในวันธรรมสวนะ ( แซบบัธวีนพักผ่อนตามลัทธิศาสนายิว คือ วันพุธ และ ศาสนาคริสต์ คือ วันอาทิตย์ ) หรือ ในวันชุมนุมของศาสนิกชนยิว โดยเฉพาะอันเรียกว่า ซันอะก๊อก ในพิธีนั้น เหล่าแม่มดจะทำการสักการะซาตาน ผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งจะมาปรากฎตัวให้เห็นเป็นบางครั้ง ในเรือนร่างของมนุษย์ แต่บ่อยครั้งจะปรากฎในรูปสัตว์ เช่น แพะสีดำสนิท และ ใหญ่มหึมา จากความเชื่อนี้ และ เมื่อคริสตจักรเรืองอำนาจ จึงเกิดการเข่นฆ่าพวกนอกศาสนาอย่างโหดเหี้ยม

เดิมทีมีการจัดการกับพวกแม่มดหมอผีอยู่บ้าง แต่การประหัตประหารเหล่าแม่มดอย่างเป็นระบบนั้น เริ่มต้นจากการพิพากษาของศาลที่สนับสนุนโดยพระสันตะปาปา ที่จัดตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพื่อกำจัดพวกนอกรีตอัลโบเจนเซียน หรือ ชาวเมือง ฮีลบี ทางตอนใต้ของฝรั่งเศษ อย่างที่เราทราบกันดีกว่าแต่ก่อนนั้น ประสัตะปาปา หรือ โป๊บ เป็นผู้กุมอำนาจ ทั้งการเมือง และ ศาสนาไปพร้อมๆกัน เพราะฉะนั้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 จึงมีบรรดเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่มี โป๊บ สนับสนุนเที่ยวไปสอบสวย ระรานพวก อัลโบเจนเซียน แล้วทำเลยเถิดไป กลายเป็นการเข่นฆ่าพ่อมด แม่มด เทียมกันอย่างสนุกมือ แต่สยองใจไปแทน

การเข่นฆ่าแม่มดขนาดใหญ่ เกิดขึ้นกลางของยุโรป รางวศตวรรษที่ 15 ต่อเนื่องไปจนถึง ศตวรรษที่ 17 นานหลายร้อยปีทีเดียว การกล่าวหาบุคคลต่างๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย ประบวนการสอบสวนการทารุนต่างๆ ซึ่งไม่มีผู้ไดสามารถทนได้ เช่น การใช้ตะปูควง ตอกเล็ก , ใช้เครื่องดึงชัดรอกดึงแขนให้ไขว้ขึ้น เพื่อให้หัวไหล่หลุด แล้วแขวนไว้ให้ทรมาร และ อื่นๆอีกมาก ซึ่งผลการสอบสวนจะยุติลงเมื่อมีการสารภาพ แน่นอนคือการยอมรับผิดว่าตนเป็นพ่อมด แม่มด แต่เท่านี้ยังไม่พอ เหยื่อยังถูกให้ซัดทอดอีก

บทลงโทษยอดฮิตสำหรับการเป็นพ่อมด แม่มด คือ การเผาทั้งเป็น วิธีการนี้ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งคิดขึ้นมาใหม่ แต่เป็นธรรมเนียมตกทอดกันมา จากหลักฐายเก่าแก่ที่กล่าวถึงการเข่นฆ่าแม่มด ที่ได้บันทึกไว้เมื่อ 350 ปีก่อนคริสต์กาล โดย ดิเมอร์ชีนิส นักเล่านิทานแห่งกรีก กล่าวถึงผู้หญิงนามว่า ธีออริส แห่ง เลมมอส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด แห่งกรุงเอเธนส์และ เธอก็ถูกเผาทั้งเป็นในเวลาต่อมา

ประเทศที่มีการทารุนกรรมมากที่สุดก็คือ เยอรมนี เฉพาะ เมืองแบมเบิร์ก เพียงแห่งเดียว มีแม่มดถูกเผาทั้งเป็นกว่า 600 คน การลงโทษนี้เริ่มตั้งแต่ปี 1609 ไดยมีบิชอป ฟอน อาสโซเสน ปกครอง โดยบิชอปคนนี้ได้สั่งเผาแม่มดไปกว่า 300 คนภายในเวลา 13 ปี หรือประมาณ สองอาทิตย์ 1 ศพ

อันที่จริงก่อนหน้ายุคกลางใช่ว่าจะไม่มีใครสนใจเรื่องราวของ พ่อมด แม่มดมาก่อน อันที่จริงน่าจะมีพ่อมด แม่มดอยู่ทั่วยุโรป ซึ่งปรากฎในประวัติศาสตร์เสมอมา จนมาถึงยุคกลางที่คริสตจักรเรืองอำนาจจนถึงขีดสุด จึงได้มีความพยายามกำจัดสิ่งที่นอกเหนือจากคำสอนของศาสนาออกไป แม้แต่ กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังถูกศาสนาพิจารณาความผิด เพราะบังอาจกล่าวว่า โลกกลม ไม่ได้แบน และ โลกไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล ซึ่งขัดแย้งกับไบเบิลเป็นอย่างมาก แต่จนถึง ณ เวลานี้ เราก็ทราบกันดีว่าฝ่ายใดถูกต้อง

วันหยุดและค่าเงินในโลกเวทมนต์

วันหยุดในหนังสือ

ในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ นั้น JK ROWLING ได้กล่าวถึงวันหยุดไว้ด้วย ซึ่งก็ไม่ต่างกับ โลกมักเกิลครับ

วันคริสต์มาส - เป็นวันสมภพพระเยซู ถือว่าเป็นวันสำคัญมากสำหรับผู้ที่นับถือ ศาสนา คริสต์
แฮร์รี่ มัได้รับของขวัญในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อถักไหมพรม จาก แม่ของ วีสลีย์ ในปีที่ 1

วันอีสเตอร์ - เป็น วันฉลอง ที่พระเยซู คืนชีพ ในเดือนเมษายน ปรากฎในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ตั้งแต่เล่มแรก จนถึงเล่มล่าสุด แฮร์รี่ และ ผองเพื่อนมักใช้เวลาว่างไปกำกับทำกิจกรรมเกินคาดคิดอยู่เสมอๆ

วันเสาร์ - อาทิตย์ - นับว่าเป็นวันหยุดปกติอยู่แล้วสำหรับการเรียนการสอน ซึ่ง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มักใช้เวลาช่วงนี้ในการฝึกซ้อม ควิดดิช และ พักผ่อน รวมถึงการไปเยี่ยม แฮกริด ที่กระท่อมด้วย


ค่าเงินในโลกเวทมนตร์

ในโลกเวทมนตร์ นับว่าเป็นโลกอีกแห่งที่การใช้จ่ายไม่เหมือนโลกมักเกิลปกติ เงินบาท , เงินปอร์น หรือ ดอลลาร์ พวกเขาไม่ใช้หรอก เขาใช้เหรียญบรอนซ์คนุตส์ เหรียญเงินซิกเกิ้ล และ เหรียญทองเกลเลียนต่างหาก

สงสัยหรือไมว่า แฮร์รี่ นำเงินมาจากไหน ? - แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้นำเงินที่พ่อ กับ แม่ของเขาฝากไว้ให้เขาที่ธนาคาร กรินกร็อท ในการใช้จ่ายค่าเล่าเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ซึ่งแน่ล่ะ ครอบครัวเดอส์ลีย์ไม่มีทางให้เงินค่าเรียนแน่ !

อัตราของเงินในโลกเวทมนตร์มีดังนี้
29 คนุตส์เท่ากับ 1 ซิกเกิ้ล และ 17 ซิเกิ้ลเท่ากับ 1 เกลเลียน

อัตราค่าแลกเปลี่ยนเงินในโลกเวทมนตร์ กับ เงินบาทไทย
1 บาท = 1.5 คนุตส์ และ 19 บาท = 1 ซิกเกิ้ล และ 323 บาท = 1 เกลเลียน

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคาถา

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคาถา

สิ่งที่จำเป็นต้องรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคาถา คือ ทฤษฎีทางการปฏิบัติ ซึ่งผมเองจะไม่กล่าวถึงทฤษฎีจากตำราเพราะอาจจะยืดยาวจนเบื่อกันไปจนไม่อ่าน แต่อย่างไรก็ตามต้องทราบเบื้องต้น ว่าเพื่ออะไร ทำไม อย่างไร ซะก่อน

นิยามเบื้องต้นเกี่ยวกับคำว่า คาถา
คาถา แปลว่า มนตร์หรือคำพูดที่เกิดจากอำนาจจิตเจตนา ทำให้เกิดผลไม่ทางใดก็ทางนึง อยู่ภายใต้อำนาจจิตเป็นตัวสั่งการให้คาถาอ่อน-แก่ ขลัง-ไม่ขลัง

ซึ่งนั่นแปลได้ว่า

1.คนที่จะร่ายคาถาได้ต้องมีการฝึกจิตเป็นเบื้องต้นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงขึ้นไปติดต่อกันมากกว่า 3 วัน(สำหรับคาถาที่เป็นBasic)

2.คนที่จะร่ายคาถาได้จะต้องมีความมุ่งหมายและจุดประสงค์เพื่ออะไรบางอย่าง แต่ไม่ใช่เพื่อลองของ ลองดี พิสูจน์เพียงเพื่อทำให้ตนเองหรือผู้อื่นเชื่อ

3.คนที่ร่ายคาถาได้จะต้องไม่ใช้คาถาพร่ำเพรื่อแต่เพื่อสนองงานต่อธรรมชาติ คาถามีหลายแบบ อาจจะเป็นบทสวด บทสรรเสริญ บทวิงวอน หรือบทอ้างอิง อำนาจจากธรรมชาติเอง


โดยหลักการเบื้องต้นที่ควรรู้เกี่ยวกับคาถามีดังนี้

1.ไม่จำเป็นต้อง ทราบและจดจำคาถาทุกบท เว้นสียแต่คาถาที่ควรค่าต่อการจดจำเช่น คาถาโบราณ คำพูดศักดิ์สิทธิ์ คาถาที่ระบุใช้ในพิธีกรรมที่มีการบังคับไว้ ซึ่งอ้างอิงจากคาถาเกิดจากอำนาจจิต โดยในเบื้องต้นใช้อำนาจจิต คำพูด สร้างเงื่อนไขของคาถาได้

2.แม้ว่าผู้ที่ต้องการจะร่ายจะมีการฝึกจิตตามที่กล่าวไปข้างต้นอย่างสม่ำเสมอหากแต่ช่วงที่จะร่ายนั้นมีความไม่พร้อมทางเวทมนตณืหลายประการ เช่น ไม่ได้ฝึกจิต อ่อนเพลีย วันและเวลาไม่เป็นผลดีต่อการร่าย(เช่น วันร้ายที่ระบุ)

3.พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะใช้คาถาทุกครั้ง เพราะแท้จริงธรรมชาติไม่ได้ต้องการให้เราใช้คาถา คาถาที่วิเศษที่สุด คือคำพูดที่สร้างสรรค์ความดีงาม ปลุกเร้าคุณธรรมในจิตใจต่างหาก นั่นคือคาถาที่มีอำนาจมนต์วิเศษ

4.บอกไว้เลยว่า ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องคาถาไม่ใช่ผู้ที่เป็นเลิศที่สุดในทางเวทมนตร์ ผู้ที่แตกฉานในเรื่องจิตวิญญาณเท่านั้น ที่จะเข้าใจลึกซึ้งใน นามธรรม ละวางรูปธรรม ภักดีและขึ้นตรงต่อธรรมชาติผู้สร้างสรรพสิ่ง(ต้องขออภัยต่อบางท่านที่ผมต้องฟันธงไปเช่นนี้ หวังว่าคงเข้าใจจุดประสงค์)

5.การเริ่มก้าวที่คาถานั้นไม่ผิด แต่ต้องมีระบบการคิดที่ลึกซึ้งเข้าใจแตกฉานในพลังอำนาจอักษรแต่ละตัวที่มาถักทอเรียงต่อกัน ซึ่งหัวใจที่เชื่อมโยงระหว่างรูปธรรมคืออักษรกับนามธรรมคือจิตต้องประสานกันอย่างลงตัว อานุภาพอันยิ่งจะถูกปลดปล่อยออกมาดดยอ้างในอำนาจธรรมชาติ

6.ระลึกไว้เลยว่า ธรรมชาติไม่ให้พลังอำนาจแก่บุคคลที่ไม่สมควร ถามว่าแล้วทำไมพวกศาสตร์มืดได้ ผมคงต้องถามกลับว่า ความชั่ว ความมืดไม่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและกลไกธรรมชาติงั้นรึ อีกอย่างเค้ามีปัจจัยอื่นมากมายนที่ต่างจากเราจะไปยึดถือเลียนแบบมิได้


คำพูดที่ควรนำไปคิดต่อหรือจดจำเพื่อระลึก

**คาถาที่วิเศษที่สุด คือ คำพูดที่สร้างสรรค์ความดีงาม ปลุกเร้าคุณธรรมในจิตใจ ไม่มีคาถาใดที่ทำลายหรือลบเลือนคาถานี้ได้

**ธรรมชาติไม่ให้พลังอำนาจแก่บุคคลที่ไม่สมควรจะได้รับพลังอำนาจ การทำตนให้สมควรตามแบบของพ่อมดคือ การยึดถือในจุดมุ่งหมาย ทำความเข้าใจชีวิต รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล หมั่นฝึกตนสม่ำเสมอ ไม่ละเมอไปตามกระแสที่ผ่านไปมา

รูปแบบการพยากรณ์

รูปแบบการพยากรณ์

Belomancy --> การทำนายจากการยิงลูกศร

Chiromancy --> การทำนายจากลายมือ

Dactylomancy --> การทำนายจากการแกว่งเสี่ยงทายของแหวนที่แขวนไว้

Daphnomancy --> การทำนายจากการปะทุของใบไม้ที่เผา

Geloscopy --> การทำนายจากเสียงหัวเราะ

Lampadomancy --> การทำนายจากเปลวไฟในตะเกียง

Libranomancy --> การทำนายจากควันของเครื่องหอม

Lithomancy --> การทำนายจากไข่มุก

Margaritomancy --> การทำนายจากรอยย่นบนหน้าผาก

Phrenology --> การทำนายจากรูปร่างของกระโหลกศีรษะ

เวทมนตร์ / คาถา

คาถา ฟิเดลลิอัส ซ่อนความลับไว้ในวิญญาณของ ผู้รักษาความลับ
คาถา ดิสเซนดิอุม เปิดรูปปั้น
คาถา ทารันทัลเลกร้า คาถาเต้นรำ
คาถา เพสกิพิกซี่ เพสเตอร์โนมี่ คาถาหยุดตัวพิกซี่
คาถา เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส สาปให้แขนขาติดกับลำตัว
คาถา เฟอรูล่า คาถาเสกผ้าพันแผล
คาถา โมบิลิคอร์ปัส คาถาย้ายผู้ที่ไม่สามารถเดินได้
คาถา โมบิลิอาบัส คาถาย้ายวัตถุสิ่งของ
คาถา ริกตัสเซมปร้า คาถาจี้เส้น
คาถา ริดดิคูลัส คาถาไล่บ็อกการ์ต
คาถา รีดัคโต คาถาทลายดาน
คาถา วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า คาถาเสกให้สิ่งของลอย
คาถา ออบลิเวียต คาถาลบความจำขั้นรุนแรง
คาถา อ๊อบลิวิอาเต้ คาถาลบความจำ
คาถา อิมเปริโอ คาถาสะกดใจ
คาถา เอ็นกอร์จิโอ คาถาเสกให้ตัวพอง
คาถา แอ๊กซีโอ คาถาเรียกของ
คาถา อาโลโฮโมร่า คาถาสะเดาะกุญแจ
คาถา เอกซ์เปลลิอามัส คาถาปลดอาวุธ
คาถา อิมเพอร์วิอัส คาถาไล่น้ำ
คาถา อิมเปดิเมนต้า คาถาสกัดภัย
คาถา เอกซ์เปกโต พาโตรนุม คาถาเสกผู้พิทักษ์
คาถา สตูเปฟาย คาถาสะกดนิ่ง
คาถา ลูมอส คาถาจุดไฟที่ไม้กายสิทธิ์
คาถา น็อก คาถาดับไฟที่ไม้กายสิทธิ์
คาถา อินเซนดิโอ คาถาจุดไฟ
คาถา เฟอร์นันคูลัส คาถาเสกฝีหนอง
คาถา เด็นเซากีโอ คาถาเสกฟันให้ใหญ่ขึ้น
คาถา ออร์คิดดีอุส คาถาเสกดอกไม้
คาถา อาวิส คาถาเสกนก
คาถา โซโนรัส คาถาขยายเสียง
คาถา ไควเอตตัส คาถาถอนขยายเสียง
คาถา เอเนอร์วาเต้ เสกให้รู้สึกตัว
คาถา มอร์สมอร์เดร คาถาเสกตรามาร
คาถา ไพร-ออร์ อินคานตาโต้ คาถาตรวจสอบคาถาสุดท้าย จากไม้กายสิทธิ์
คาถา ชี้ทาง คาถาตรวจสอบทางที่ถูกต้องเมื่อ วางราบกับฝ่ามือ
คาถา อะวาดา เคดาฟ-รา คำสาปพิฆาต ใช้ปลิดชีพผู้คน และ สิ่งมีชีวิต
คาถา เซอร์เพ็นเซอร์เฮีย คาถาเสกงู
คาถา โลโคมอเตอร ์มอติส คาถาผูกขา
คาถา ไฟไนท์ อินคานทาเท็ม คลายคาถา
คาถา ครูซิโอ คำสาปกรีดแทง
คาถา เรดูซิโอ คาถาทำให้ตัวหดลง
คาถา เรส คาถาฟื้นหลัง
คาถา วาดดิสวาซี่ คาถาเสกของให้จู่โจมคนที่ต้องการ
คาถา อะพาเรซีอุม คาถาเสกหมึกล่องหนให้ปรากฏ
คาถา อะพาเรเต้ คาถาหายตัวไปยังที่ต่างๆ
คาถา ดิลิตริอัส คาถาสลายตัว ทำให้แตกเป็นส่วนๆ
คาถา โอคิวรัส เรพาโร คาถาซ่อมแซมสิ่งของ
คาถา รีลาชีโอ คาถาไล่คนออกไปห่างๆ
คาถา ดิฟฟินโด คาถาฉีกขาดให้แยกออกเป็นส่วนๆ
คาถา เรลาชีโอ เสกน้ำร้อนพุ่งไปหากรินดี้โลว์
คาถา ดวงตากระต่ายกับเสียงดีดพิณ เปลี่ยนน้ำส่วนนี้ให้เป็นรัม เสกน้ำให้กลายเป็นเหล้ารัม
คาถา สเกอจิฟาย คาถาทำความสะอาด
คาถา อีวาเนสโค คาถาอันตรธาน
คาถา ซิเลนซีโอ คาถาสงบเสียง
คาถา เลกจิลิเมนส์ คาถาอ่านใจ
คาถา อินคาเซอรัส คาถาเสกเชือก
คาถา ฟลาเกรต คาถาสร้างเครื่องหมายบนอากาศ
คาถา คอลโลพอร์ตัส คาถาล็อคกุญแจ
คาถา ไฟไนท์ คลายคาถา
คาถา โพรเทโก้ หักเหคาถา
คาถา พอร์ตัส คาถาเสกกุญแจนำทาง
คาถา อาแนปนีโอ คาถานี้เข้าใจว่าเป็นคาถาขยายหลอดลม เพราะใช้ตอนมีคนสำลัก
คาถา มัฟฟลิอาโต เป็รคาถาที่ทำให้ผู้คนรอบข้างไม่ได้ยินเสียงพูดของเราได้
คาถา สเปเซียอาลิส เรเวลิโอ คาถานี้เป็นคาถาแสดงตัว แต่ใช้กับการให้ส่วนประกอบทางเคมีแยกตัวออกจากกัน ตามกฎของสคาร์พิน
คาถา โฮเมนัม เรเวลิโอ คาถาแสดงตัวใช้กับมนุษย์
คาถา เอพิสกี้ เป็นคาถาซ่อมจมูก
คาถา เลวิโครพัส คนที่ถูกคาถาจะเหมือนกับถูกมือล่องหนจับห้อยหัวกลางอากาศ คาถานี้มีจุดพิมพ์ผิดด้วยนะครับ คือ เลวิโครพัส กับ เลวิครอพัส
คาถา ลิเบอราคอร์พัส เป็นคาถาต้านมนตร์ของเลวิโครพัส สังเกตคำว่าลิเบอรานะครับ มันน่าจะมาจากคำว่า libra ที่แปลว่า ตราชั่ง หรือคานสมดุล
คาถา อ๊อบพักโน เป็นคาถาที่เฮอร์ไมโอนี่ สั่งให้นกขมิ้นสีทองรุมทึ้งรอน
คาถา เซ็กตัมเซมปร้า คนที่ถูกคาถานี้ จะเหมือนโดนดาบล่องหนฟัน
คาถา เรนเนอวาเต้ เป็นคาถาที่ใช้ปลุกคนที่ที่โดนสะกดนิ่งด้วย สตูเปฟายครับ

พืชสมุนไพรในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์

แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ เพื่อนๆ ต้องเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ พืชบางชนิดที่กล่าวถึงมีอยู่ในโลกจริงๆ ส่วนบางชนิดเป็นพืชวิเศษที่มีอยู่ในจินตนาการ บางชนิดอยู่ก้ำกึ่งระหว่างของจริงกับนิยาย ถ้าเป็นพืชในจินตนาการของ เจเค โรลลิ่ง จะมีคำว่า JK. อยู่หลังชื่อสมุนไพรนั้นๆ แต่ถ้าไม่มี จะเป็นพืชที่มีอยู่จริง

Abyssinian Shrivelfig (ต้นมะเดื่อจากอบิสสีเนีย) JK.
นักเรียนสมันไพรศาสตร์ปีที่ 2 ต้องทำงานกับเจ้าต้นนี้โดยเรียนรู้ที่จะเล็มต้นมะเดื่อจากอบิสสีเนีย (ห้องแห่งความลับ -15) เปลือกของชริฟเวลฟิกเป็นส่วนผสมของน้ำยาหดตัว (อัซคาบัน -7)

Aconite (อะโคไนต์) หรือ Monkshood, Wlfbane
อะโคไนต์ เป็นพืชที่มีพิษอย่างร้ายแรง จึงเป็นที่มาของชื่อ Wolfbane ส่วนชื่อ Monkshood ได้มาจากรูปทรงของดอก (พืชชนิดนี้นำมาเป็นส่วนผสมของน้ำมันที่ใช้นวดข้อต่อที่เจ็บปวด แต่ถ้ากลืนหรือซึมซับผ่านผิวหนังที่แตกโดยตรงอาจทำให้ตายได้)

Asphodel (อัลโฟเดล)
เป็นส่วนผสมที่เป็นกุญแจสำคัญของยานอนหลับชนิดแรงมากที่รู้จักกันในชื่อของยาตายทั้งเป็น (ศิลาอาถรรพ์ -8) สเนปลองภูมิแฮร์รี่ในชั่วโมงแรกของวิชาปรุงยา พืชชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับชีวิตหลังความตายและยมโลก

Belladonna (เบลล่าดอนน่า)
พืชที่มีพิษชนิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดอุปกรณ์ปรุงยามาตรฐานของนักเรียนฮอกวอตส์

Bouncing Bulcs (หัวต้นกระเด้งดึ๋ง) JK.
ในการย้ายกระถางที่ปลูก เจ้าต้นนี้ดิ้นหลุดจากมือแฮร์รี่และฟาดหน้าเขา (ถ้วยอัคนี - 18)

Bubotuber (บิวโบทูบเบอร์) JK.
บิวโบทูบเบอร์ มีลักษณะเหมืองหอยทากยักษ์สีดำ โดยโผล่พ้นดินตามแนวตั้ง มันมีตุ่มขาดใหญ่เป็นมันหลายตุ่ม ซึ่งมีหนองข้นสีเขียวอมเหลืองอยู่ข้างใน กลิ่นเหมือนน้ำมัน (ถ้วยอัคนี - 13) หนองบิวโบทูเบอร์จะระคายผิว (ถ้วยอัคนี - 28) แต่เมื่อเจือจางให้เหมาะสมแล้วจะนำไปใช้เป็นยาแก้สิวชะงัดนัก (ถ้วยอัคนี - 13

Cabbage (กระหล่ำปลี)
แฮกริดได้ปลูกแปลงกระหล่ำสำหรับฮอกวอตส์ เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้แก่ครัว ตามที่แฮกริดเล่า ตัวทากกินเนื้อเข้ามาทำลายกระหล่ำปลี (ห้องแห่งความลับ - 4)

Dalsy (เดซี่)
รากของมันเป็นส่วนผสมในน้ำยาหดตัว (นักโทษแห่งอัซคาบัน - 7)

Devil's Snare (กับดักมาร) JK.
กับดักมารมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างนุ่ม ซึ่งมีงวงหรือเถาที่จะวัดคนที่ไปสัมผัสมัน ยิ่งต่อสู้ดิ้นรนมากเท่าไหร่ มันจะยิ่งรัดมากขึ้นเท่านั้น กับดักมารที่ชอบชื้นแฉะและมืด เถาของมันจะหดตัวออกจากไฟ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ใช้คาถาลูเบลล์เฟลมสร้างไฟสีน้ำเงินขับกับดักมารที่กำลังรัดแฮร์รี่และรอน (ศิลาอาถรรพ์ -16)

อีกครั้งที่กับดักมารมีบทบาทคือในภาค 5 ชินส่วนของมันถูกใช้เพื่อฆาตกรรม บรอเดอริค โบเด ในเซนต์มังโกซึ่งปรากฎเป็นข่าวในเดลี่ฟรอเฟ็ต (ภาคีนกฟินิกซ์ -22 , ภาคีนกฟินิกซ์ - 25)

Dittany (ดิตทานี)
หนึ่งในพืชที่อยู่ในตำราสมุนไพรและเห็ดราวิเศษหนึ่งพันชนิด (ศิลาอาถรรพ์ - 14) ในอดีตเชื่อว่ามันมีพลังวิเศษ

Fanged Geranium (เขี้ยวเจอราเนียม) JK.
พืชชนิดนี้สามารถกัดคนได้ (ภาคีนกฟินิกซ์ - 31) Fang แปลว่า "เขี้ยวสัตว์" ส่วนเจอราเนียมเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีอยู่จริง

Filitterbloom (ฟลิตเตอบลูม) JK.
พืชชนิดนี้มีลักษณะเหมือนกับดักมารอย่างมากแต่ไม่ดุร้าย ซึ่งมิเรียม สเตร้าท์ สำคัญผิดว่ากับดักมารที่ฆ่าบรอเดอริก โบเด เป็นฟลิตเดอบลูม (ภาคีนกฟินิกซ์ - 22,25)

Flutterby Bush (พุ่มระริกไหว) JK.
พุ่มไม้นี้สั่นและเขย่าในชั้นเรียนสมุนไพรศาสตร์ นักเรียนจะต้องเร็มเจ้าต้นนี้ (ถ้วยอัคนี - 20)

Fluxweed (หญ้าน้ำประสาร)
พืชชนิดนี้หาได้ยากในอังกฤษ มันมีส่วนผสมของน้ำยาสรรพรส หญ้าน้ำประสานต้องเก็บในคืนวันเพ็ญเท่านั้น (ห้องแห่งความลับ - 10,11)

Gillyweed (หญ้าเหงือกปลา)
เป็นของพื้นเมือแถบเมติเตอร์เรเนียน พืชน้ำชนิดนี้มีลักษณะเหมือนหางหนู สีเขียวอมเทา มีเมือกมันที่รวมกันเป็นกระจุก เมื่อเคี้ยวและกลืนลงไป มันจะสร้างเหงือกทำให้สามารถหายใจในน้ำได้ นอกจากนั้นยังสร้างผังผืดที่มือเท้าทำให้มีครีบเหมือนปลา หญ้าเหงือกปลาจะออกฤทธิ์ได้ 1 ชั่วโมง ซึ่งทำให้แฮร์รี่สามารถลงไปช่วยรอนในทะเลสาบได้ในภารกิจที่ 2 ของการประลองเวทย์ไตรภาคี สเนปเก็บหญ้าชนิดนี้ไว้ในที่เก็บส่วนตัว แต่ด็อบบี้ขโมยมาให้แฮร์รี่ (ถ้วยอัคนี -26)

Ginger (ขิง)
รากขิงเป็นส่วนประกอบของยาปัญญาเฉียบ (ถ้วยอัคนี -27)

Hellebore (เฮลลีบอร์)
พืชที่มีพิษ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่แฮร์รี่ลืมเติมลงในยาแห่งสันติ (ภาคีนกฟินิกซ์ - 12)

Holly (ฮอลลี่)
ต้นไม้ที่มีคุณสมบัติในการนำมาทำเป็นไม้วิเศษ ฮอลลี่เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนชีพ (ต้นไม้ชนิดนี้นำมาประดับประตูหน้าต่างในเทศกาลคริสต์มาส)

ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่เป็นหนึ่งเดียวที่ทำจากต้นฮอลลี่ (ศิลาอาถรรพ์ - 5)

Honking Daffodil (แดฟโฟดิล)
ศาสตราจารย์สเปราต์มีอยู่ในเรือนกระจก (แดฟโฟดิลเป็นดอกไม้จำพวกจุ๊บเชียงสีเหลือง)

Hornbeam (ฮอร์นบีม)
ต้นไม้ที่มีคุณสมบัติในการทำเป็นไม้วิเศษ

ไม้กายสิทธิ์ของวิคเตอร์ ครัม ทำมาจากฮอร์นบีม

Knotgrass (หญ้าปม)
เป็นส่วนผสมหนึ่งในน้ำยาสรรพรส (ห้องแห่งความลับ - 10,11)

Leaping Toadstool (มูลคางคกกระโดด)
ในชั้นสมุนไพรปีที่ 2 ซึ่งนักเรียนต้องทำงานด้วย (ห้องแห่งความลับ - 14) Toadstoll เป็นเห็ดชนิดหนึ่ง ส่วน Leap แปลว่า กระโดด

Lovage
ใช้ในยาสับสนและมึนตึง (ภาคีนกฟินิกซ์ - 18)

Mallowsweet (มอลโลว์สวีท)
เซ็นทอร์เผาสิ่งนี้ และสังเกตควันและเปลวเพื่อช่วยแปลผลของการดูดาว (ภาคีนกฟินิกซ์ - 27)

Mandrake (แมนเดรก)
แมนแดรกเป็นส่วนผสมสำคัญที่ใช้ในยาแก้พิษส่วนใหญ่ โดยเฉพาะช่วยให้คนที่ถูกสาปหรือถูกแปลงร่างกลับคืนสภาพเดิมได้ ดังนั้นดัมเบิลดอร์จึงให้ศาสตราจารย์สเปราต์เลี้ยงแมนเดรกเพื่อใช้เป็นยารักษาคนที่กลายเป็นหิน เนื่องจากบาซิลิสก์ แมนเดรกมีอันตรายอย่างยิ่งยวดเนื่องจากเสียงร้องของมัน เชื่อกันว่ามีผีสิงอยู่ที่รากของแมนเดรก ซึ่งหากถอนขึ้นมา ผีจะกรีดร้องโหยหวนและทำให้คนที่ได้ยินถึงตายได้
แมนเดรกเป็นพืชที่มีอยู่ในโลกจริงๆ แมนเดรกมักถูกเรียกว่าแมนดราโกรา ในขณะที่อาหรับเรียกว่าแอปเปิ้ลของซาตาน แมนดราโกราเป็นคำที่มาจากภาษากรีกมีความหมายว่าเป็นอันตรายต่อปศุสัตว์ เชื่อกันว่าถ้าให้สตรีกินเข้าไปแล้วจะตั้งครรภ์ ในคัมภีร์ไบเบิลจากหนังสือปฐมกาล กล่าวถึงต้นแมนเดรก (ไบเบิลฉบับภาษาไทยแปลว่า "มะเขือดูดาอิม") ว่านางราเซลขอต้นไม้นี้มาจากพี่สาวที่ชื่อนางเลอาห์ เพราะราเชลยังไมีมีลูก ต่อมาภายหลังนางราเชลก็มีลูก และตำนานอื่นๆเล่า ต้นนี้เป็นพืชที่มีความสัมพันธ์กับความเสเพล และความยั่วยวนของเทวีวีนัส

แมนเดรกเป็นพืชสมุนไพรที่ปราศจากลำต้น มันมีรากใหญ่สีน้ำตาลและมีใบสีเขียว มันมีความสูงประมาณ 4 นิ้ว แมนเดรกออกดอกในช่วงมีนาคมถึงเมษายน และมีผลในช่วงฤดูร้อนดอกมีสีแตกต่างกันตั้งแต่ขาวถึงเหลือง มีรูปทรงคล้ายถ้วย แมนเดรกเป็นพืชพื้นเมืองของหิมาลายาและเมดิเตอร์เรเนียน

Maple (เมเปิล)
ต้นไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้วิเศษ (ศิลาอาถรรพ์ - 5)

Mahogany (มะฮอกกานี)
ต้นไม้ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้วิเศษ (ศิลาอาถรรพ์ - 5,7)

ไม้วิเศษอันแรกของเจมส์ พอตเตอร์ทำมาจากไม้มะฮอกกานี ตามที่มิสเตอร์โอลิแวนเดอร์สาธยายไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติดัดงอง่าย และดีเยี่ยมสำหรับการใช้แปลงร่าง

เจเค โรว์ลิ่ง กล่าวไว้ว่าถ้าเธอมีไม้กายสิทธิ์มันควรเป็นไม้มะฮอกกานีที่มีขนหากฟินิกซ์เป็นแกนกลาง

Mimbulus Mimbletonia JK.
เป็นสิ่งที่หายากเป็นของพื้นเมืองของอัสซีเรีย พืชชนิดนี้คล้ายกระบองเพชรเทา เนวิลล์ ลองบัตท่อมได้มันมาจากลุงอัลจี้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่ 15 (ภาคีนกฟินิกซ์ - 15)

Nettle (ขนเม่น)
เป็นพันธ์ไม้ที่มีขนคันคล้ายตำแย เป็นส่วนผสมพื้นฐานยารักษาฝี (ศิลาอาถรรพ์ - 8)

Oak (โอ๊ก)
ต้นไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้กายสิทธิ์ โอ๊กเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ไม้วิเศษของแฮกริดทำจากไม้โอ๊ก (ศิลาอาถรรพ์ - 5)

Privet (พรีเว็ต) JK.
พันธ์ไม้ที่ปลูกบริเวณชานเมืองของพวกมักเกิ้ลเป็นรั้วไม้เตี้ยๆ

Puffapod (พัฟฟาพ็อต)
ฝักอ้วนสีชมพูที่มีเมล็ดเป็นมันวาว มันจะแตกเป็นดอกไม้เมื่อมันตกพื้น (นักโทษแห่งอัซคาบัน - 8)

Pumkim (ฟักทอง)
แฮกริดปลูกแปลงฟักทองไว้นอกกระท่อม ซึ่งผลฟักทองนิยมนำไปประดับในงานฮัลโลวีน

Rosewood (พะยูง)
โรสวู๊ดหรือไม้พะยู ต้นไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้กายสิทธิ์ (ศิลาอาถรรพ์ - 5) ไม้กายสิทธิ์ของเฟลอร์ เดอลากูร์ทำจากไม้โรสวู้ด

Sage (ไม้จำพวกผกากรอง)
เซนทอร์เผาสิ่งนี้ และสังเกตควันและเฟลวไฟเพื่อช่วยแปลผลของการดูดาว (ภาคีนกฟินิกซ์ - 27)

Scurvy - grass
ใช้ในยาสับสนและมึนตึง

Sneezewort
ใช้ในยาสับสนและมึนตึง

Umbrella - sizes Flowers (ดอกไม้ยักษ์ขนาดเท่าร่ม) JK.
แขวนอยู่บนเพดานของเรือนกระจกหมายเลข 3 (ห้องแห่งความลับ - 6)

Vanonous Tentacula (แทนทะคูเลอะมีพิษ)
ต้นไม้สีแดงคล้ำๆซึ่งมีฟัน ชอบยื่นเถาไปยังผู้คน (ห้องแห่งความลับ - 6)

Willow (วิลโลว์)
ต้นไม้ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้วิเศษ

ไม้กายสิทธิ์ของลิลลี่ แม่ของแฮร์รี่ทำจากต้นวิลโลว์ (ศิลาอาถรรพ์ - 5) ไม้กายสิทธิ์ของรอนก็ทำมาจากต้นวิลโลว์ (นักโทษแห่งอัซคาบัน)
Whomping Willow (ต้นวิลโลว์จอมหวด) JK.
เป็นพืชพันธ์เดียวกับวิลโลว์ แต่ใหญ่กว่า และดุร้ายกว่าเมื่อมีสิ่งใดเข้าไปใกล้ (ห้องแห่งความลับ , นักโทษแห่งอัซคาบัน)

Wolfbane (วูลฟ์เบน)
ดู Aconite

Wormwood (วอร์มวู๊ด)
เป็นส่วนผสมของยานอนหลับที่แรงมากที่รู้จักกันในชื่อยาตายทั้งเป็ฯ สมุนไพรชนิดนี้ เป็นคำถามแรกที่สเนปถามแฮร์รี่ในชั่วโมงแรกของชั้นเรียนวิชาปรุงยา (ศิลาอาถรรพ์ - 8)

Yew (ยิว)
ต้นไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนำไปทำเป็นไม้กายสิทธิ์ ต้นยิวเป็นสัญลักษณ์ของความตายและการคืนชีพ ไม้นี้มีความทนทานต่อการผุพังอย่างดีเยี่ยม ต้นยิวปลูกในลานโบสถ์ที่ลิตเติลแฮงกลีตัน (ถ้วยอัคนี) และต้นยิวเติบโตในป่าต้องห้าม แฮกริดได้สังเกตมันได้ชัดเจนเมื่อแฮกริดสอนปีห้าเกี่ยวกับธีสทรัล (ภาคีนกฟินิกซ์)

ไม้กายสิทธิ์ของทอม ริดเดิ้ล ทำมาจากไม้ยิว (ศิลาอาถรรพ์ - 5)

สถานที่ต่างๆใน แฮร์รี่ พอตเตอร์

ร้านหม้อใหญ่รั่ว - เป็นร้านที่สามารถเชื่อต่อระหว่างโลกเวทมนตร์อย่าง ตรอกไดแอกอน กับ โลกที่ไร้ซึ่งเวทมนตร์ มักเกิ้ล ถูกเอ่ยขึ้นครั้งแรกในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์ หรือ เล่มที่ 1 นั่นเอง.

ร้านไม้กวาดสามอัน - เป็นร้านที่ได้รับความนิยมมากจากเหล่านักเรียน Hogwarts และ ผู้วิเศษ มักมีการดื่มบัตเตอร์เบียร์กันที่ร้านนี้ ถือว่าเป็นร้านประจำของ แฮร์รี่ , รอน และ เฮอร์ไมโอนี่เลยทีเดียว

ร้านหัวหมู - เป็นร้านที่มีคนเงียบเหงา แต่ เป็นที่จับตามองมาก ร้านนี้ เฮอร์ไมโอนี่ ได้เรียกประชุมเหล่าสมาชิก กองทัพดัมเบิลดอร์ และ เรื่องได้หลุดรอดไปโดยไม่รู้ตัว

หมู่บ้านฮ็อกมีสท์ - เป็นหมูบ้านเหล่าผู้วิเศษ ที่มีร้านค้าต่างๆมากมาย เช่น ไม้กวาด 3 อัน ซึ่งจะให้นักเรียน Hogwarts มาเยี่ยมชม และ จับจ่ายได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น

ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก - เป็นร้านที่ขายหนังสือ อุปกรณ์การเรียนที่จะใช้ในการเรียน การสอนในโรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์ Hogwarts

ร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น - เป็นร้านขายเสื้อคลุ่ม ไทม่ว่าจะเป็นเสื้อคลุมนักเรียนได้ได้ขนาดเหมาะเจาะ หรือ เสื้อคุล่มโอกาศไหนๆ สามารถหาซื้อได้ที่นี่

ร้านขายไม้กายาสิทธิ์ของโอลิแวนเดอร์ - เป็นร้านที่ขายไม้กายาสิทธิ์มาช้านาน ซึ่งนับว่าเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้วิเศษ พ่อ แม่ ของ แฮร์รี่ มาซื้อไม้ที่นี่ รวมทั้ง ลอร์ด โวลเดอมอร์ ก็มาซื้อไม้ที่นี่ด้วย

ร้านของเล่นซองโก้ - เป็นร้านขายของตลก เช่น ระเบิดเหม็น ฯลฯ

ร้านฮันนี่ดุกส์ - เป็นร้านที่ขายขนมหวาน อยู่ในหมู่บ้านฮ็อกมีสท์
เพิงโหยหวน - เป็นบ้านเร้าง ว่ากันว่าเป็นบ้านที่มีผีดุที่สุดในเกาะอังกฤษ

ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ - เป็นร้านขายของตลกของฝาแฝด วีสลีย์ ปรากฎในเล่ม 6

ร้านทไวล์ฟิตต์และแท็ตติง - ปรากฎในเล่มที่ 6 ในตอนที่แม่ของมัลฟอย บอกให้ออกจากร้านมาดามมัลกิ้ล แล้วไปร้านเนี้ยะล่ะ